อย่าโทษ

อย่าโทษไทท้าวท่วย                   เทวา
อย่าโทษสถานภูผา                     ย่านกว้าง
อย่าโทษหมู่วงศา                        มิตรญาติ
โทษแต่กรรมเองสร้าง                 ส่งให้เป็นเอง

*****************************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร. ทำดี : ใจเขาใจเรา. 19 ธ.ค.2542.

สังขาร

ดูโรงเรือนเปรียบเหมือนกับสังขาร
                ปลูกไว้นานเก่าคร่ำฉล่ำฉลาย
แก่ลงแล้วโครงร่างหนอร่างกาย
                ไม่เฉิดฉายเหมือนหนุ่มกระชุ่มกระชวย
ตาก็มัวหัวก็ขาวเป็นคราวคร่ำ
                หูก็ซ้ำไม่ได้ยินเอาสิ้นสวย
แรงก็ถอยน้อยกำลังนั่งก็งวย
                ฟันก็หักไปเสียด้วยไม่ทันตาย

*************************************
สุภาษิตอิศรญาณ อ้างถึงใน ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.หลังเกษียณ : ใจเขาใจเรา.26 ก.ย.2542  

ความดีที่ได้ทำ

ใครฤาเลือกเกิดได้                บ้างยากไร้บ้างมั่งมี
ทุกคนอยากอยู่ดี                   มีชีวีที่สราญ
ชีวิตอยู่จงเร่งคิด                   สุจริตทำกิจการ
หมั่นเพียรในการงาน             เลื่องลือขานคนกล่าวชม
ตายแล้วร่างก็เน่า                  ทุกคนเล่าไม่รื่นรมย์
เหลือไว้ให้นิยม                     คือความดีที่ได้ทำ

*******************************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.เกิด-แก่ : ใจเขาใจเรา. 30 ส.ค.2541.

พระคุณแม่

พระคุณแม่ล้นฟ้ามหาสมุทร             พระคุณแม่สูงสุดมหาศาล
พระคุณแม่กว้างกว่าสุธาธาร            พระคุณแม่เหลือประมาณจะบูชา

เมื่อร้อนน้ำท่านให้          เย็นใจ
เมื่อเยือกเย็นได้ไฟ         อุ่นเนื้อ
เมื่อทุกข์ท่านแก้ไข         ชูช่วย
เมื่อยากจนท่านเกื้อ        ก่อให้ทำทุน

*****************************************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.นกรู้ : ใจเขาใจเรา. 15 ก.พ.2541. 

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

กรรมใดก่อขึ้นย่อม          ยังผล
ดีชั่วดังที่ตน                    ประพฤติ
ทำดีจักได้ผล                  ผลเลิศ
ทำชั่วจักเสียจิต               เพราะโทษตามทัน

**********************************
สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า อ้างถึงใน ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.เมืองดี : ใจเขาใจเรา.8 ก.พ.2541 

อย่าทะนงหลงอำนาจ

เมื่อยามสุขอย่าทะนงหลงอำนาจ
ขืนประมาทหมิ่นทุกข์หมดสุขศานต์
อย่าหลงโกรธโทษพระพรหมยมบาล
เสื่อมเพราะการกระทำตัวชั่วหรือดี

*************************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.วินัย : ใจเขาใจเรา. 18 ม.ค.2541.

คนพาลและปราชญ์

ดารามีมากร้อย                     ถึงพัน
บ่เปรียบกับดวงจันทร์           หนึ่งได้
คนพาลมากอนันต์               ในโลก
จะเทียบเท่าปราชญ์ไซร้       ยากแท้ฤาถึง

**********************************
โลกนิติคำโคลง อ้างถึงใน ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.ตระหนี่ : ใจเขาใจเรา.14 ธ.ค.2540.

บุตรดี บุตรชั่ว

บุตรดีเป็นที่ปลื้ม            เปรมกมล
แห่งชนกชนนีตน           ค่ำเช้า
บุตรชั่ว  บ่ โดยกล         กิจสั่ง  สอนแฮ
ให้ท่านทั้งสองเศร้า       เสื่อมสิ้นยินดี

*******************************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.ตระหนี่ : ใจเขาใจเรา.14 ธ.ค.2540.

นำตัวเราก่อน

จักเป็นผู้นำเขา           นำตัวเราก่อนเป็นไร
รู้จักบังคับใจ               รู้ระงับดับอารมณ์
รู้จักรับผิดชอบ           รู้ระบอบอันเหมาะสม
ทำสิ่งควรชื่นชม         ได้ดั่งรู้    คือผู้นำ

*********************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.จริยธรรมผู้นำ : ใจเขาใจเรา.23 พ.ย.2540.

อย่าเมาอำนาจ

ผู้นำต้องรู้จักนำตัวเอง  ชนะตัวเอง อย่าเมาอำนาจ หลงตัวเอง เป็นกิ้งก่าได้ทอง ต้องครองสติให้อยู่

เมาเหล้าบ้างยาบ้างก็ช่างเถิด
แต่อย่าเกิดเมาอำนาจวาสนา
จนลืมตนเห็นคนหมดราคา
ไม่ไว้หน้าใครใครนั้นไม่งาม

***************************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.จริยธรรมผู้นำ : ใจเขาใจเรา.23 พ.ย.2540.

ผู้นำ

ผู้นำจะต้องมีความมั่นใจในตนเอง อย่าหูเบา อย่าหูตึง อย่าหูหนวก ต้องเป็นคนมีหูดี มองโลกในแง่ดี อย่างที่ท่านพุทธทาสภิกขุ ว่าไว้

เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา
จงเลือกเอาส่วนดีเขามีอยู่
เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู
ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย

********************************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.จริยธรรมผู้นำ : ใจเขาใจเรา.23 พ.ย.2540. 

ดีกว่า

ฟังเขาพูด  ดีกว่าพูดให้เขาฟัง
ติเตียนตนเอง   ดีกว่าติเตียนคนอื่น
ด่าตนเอง   ดีกว่าด่าคนอื่น
ทำตนให้เป็นมิตร  ดีกกว่าทำตนให้เป็นศัตรู

***********************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.ตีความ : ใจเขาใจเรา.22 มิ.ย.2540. 

เป็นมนุษย์

เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง
เหมือนหนึ่งยูงมีดีที่แววขน
ถ้าใจต่ำเป็นได้แต่เพียงคน
ย่อมเสียทีที่ตนได้เกิดมา

***********************************
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ  รัตนากร.ไทย-ไท : ใจเขาใจเรา.1 มิ.ย.2540. 

การเมืองเป็นใหญ่

หากเมื่อใดก็ตาม
การเมืองเป็นใหญ่ กฎหมายเป็นรอง และกองทัพเป็นลูกไล่
เมืองไทยที่เราเคยรู้จัก รักและภูมิใจ
ก็คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน

แต่ถ้า
กฎหมายเป็นใหญ่ การเมืองเป็นรอง กองทัพเป็นหลัก
บ้านเมืองรอด

*****************************************
ปราโมทย์  นาครทรรพ : 18 ก.ค.2554

โบยบิน

@ พระจันทร์ช่วยเกี่ยวข้าวกับชาวนา
แอบมาช่วยยายตาให้ตำข้าว
แล้วฉายภาพตายายอยู่พรายพราว
เป็นเรื่องราวให้ยลบนพระจันทร์

@ ไอ้เด็กโง่หลงใหลไม่เป็นเรื่อง
ดวงจันทร์เบื้องบนฟ้าเวหานั่น
โคจรตามวิถีทางอยู่อย่างนั้น
พื้นผิวอันขรุขระหลอกตาเรา

@ พระอาทิตย์ก็มาช่วยอยู่ทุกช่วง
โปรยสีทองทาบรวงสลักเสลา
ไอ้โง่เอ๊ย..ดวงอาทิตย์ฤทธิ์แรงเร้า
ไม่มีเรื่องน้ำเน่าอย่างเจ้าคิด !

@ แน่ะดวงดาวทุกดวงในห้วงหาว
ก็หว่านดาวลงมาปกาศิต
มาอยู่ในจานข้าวราวเนรมิต
โธ่..ไอ้จิตฟุ้งสร้านพิการเอ๊ย

@ เอ็งรู้ไหมดาวมีกี่โกฏิล้าน
อยู่ในจานได้ไง..ไอ้โง่เอ๋ย
เวลาพี่กินข้าวทุกคราวเลย
แล้วพี่เคยนับเม็ดข้าวทุกคราวฤา

***********************************
ผู้ประพันธ์ : เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์ วันพุธที่ 6 กรกฏาคม 2554

จุดอ่อนห้าประการของแม่ทัพ

จุดอ่อนห้าประการของแม่ทัพ
  • สู้ตายอาจถูกฆ่า
  • กลัวตายอาจถูกจับ
  • ฉุนเฉียวอาจถูกยั่ว
  • หยิ่งในศักดิ์ศรีอาจถูกหยาม
  • รักราษฎรอาจถูกก่อกวน
ห้าประการนี้เป็นจุดอ่อน เป็นความผิดพลาดมี่มักพบได้ในแม่ทัพ
ล้วนเป็นภัยแก่การบังคับบัญชา

กองทัพล่มสลายแม่ทัพมอดม้วย
จุดอ่อนห้าประการนี้ จักไม่พินิจพิเคราะห์หาได้ไม่

******************************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

การรบต้องเปลี่ยนได้ดั่งน้ำ

น้ำปรับตัวได้ตามภาชนะ
น้ำย่อมไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ

การรบของเราก็ต้องปรับเปลี่ยนได้ดั่งน้ำ
พึงหลีกเหลี่ยงจุดแข็ง โจมตีจุดอ่อน

น้ำย่อมปรับตัวไปตามพื้นที่ที่มันไหลผ่าน
กองทัพของเราก็พึงปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับข้าศึก
เพื่อชัยชนะเฉกเช่นกัน.....

********************************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

หากอิ่ม..จงทำให้อด

หากข้าศึกสดชื่น  จงทำให้เหนื่อยล้า
หากเขาอิ่ม           จงทำให้อด
หากเขาพักผ่อน    จงอย่าให้อยู่นิ่ง

*****************************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

วิธีการของชัยชนะ

เสียงเพลงมีอยู่เพียงไม่กี่เสียง
หากว่าเราปรับแต่งมัน จะได้บทเพลงแห่งชัยชนะมากมาย
ฟังได้ไม่รู้จบ

สีมีอยู่เพียงไม่กี่สี
หากว่าผสมมัน จักได้สีสันแห่งชัยชนะมากมาย
ให้ดูได้ไม่รู้จบ

รสมีอยู่เพียงไม่กี่รส
แต่เรายังสามารถผสมมัน จนได้รสชาติแห่งชัยชนะมากมาย
ให้ลิ้มได้ไม่รู้จบ

**************************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

ทฤษฎีแห่งชัย

ห้าสิ่งต้องรู้เพื่อชัยชนะ

ชัยชนะได้มาจากการรู้ว่าเมื่อไหร่ควรโจมตี เมื่อใดควรหลีกเหลี่ยงการปะทะ
ชัยชนะได้มาจากการใช้ทั้งกำลังขนาดใหญ่และขนาดเล็กอย่างเหมาะสม
ชัยชนะได้มาจากการที่ทุกคนต่างมีเป้าหมายเป็นหนึ่งเดียว
ชัยชนะได้มาจากการหาโอกาสในปัญหาให้พบ
ชัยชนะได้มาจากการมีผู้นำทัพที่เชียวชาญ มีอิสรภาพในการปฏิบัติ

รู้ในห้าสิ่งนี้ เท่ากับรู้ในทฤษฎีแห่งชัย

**********************************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

รู้เรารู้เขา

กล่าวกันว่า

รู้เรารู้เขา  รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
รู้เราแต่ไม่รู้เขา   เจ้าจะชนะหนึ่งครั้งแพ้หนึ่งครั้งสลับกันไป
ไม่รู้เราไม่รู้เขา   รบร้อยครั้งแพ้ร้อยครั้ง

รู้เขารู้เรา  รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
รู้ฟ้ารู้ดิน   จึงชนะอย่างสมบูรณ์

**********************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

นักการเมืองสร้างปัญหาให้นักการทหาร

นักการเมืองสร้างปัญหาให้นักการทหารได้สามทางเยี่ยงนี้

เมื่อกองทัพไม่พร้อมจะรุกคืบหน้า พวกเขากลับสั่งให้รุก
เมื่อกองทัพไม่พร้อมจะถอย  พวกเขากลับสั่งให้ถอย
กระทำเยี่ยงนี้ คือการเป็นอุปสรรคของกองทัพ

นักการเมืองไม่รู้เรื่องการรบ
แต่ยังคิดว่าตัวเองสามารถบัญชาทัพได้
หากแท้จริง คือการสร้างความสับสนให้นักรบ

นักการเมืองไม่เข้าใจสายการบังคับบัญชาของกองทัพ
แต่ต้องการให้กองทัพยอมตาม
สร้างความสับสนวุ่นวายให้แม่ทัพนายกอง

ทั้งกองทัพจักระส่ำและสับสน ภัยหลายแห่งหนจักมุ่งสู่
จึงอาจกล่าวได้ว่า ความไร้ระเบียบในกองทัพเป็นที่มาของความปราชัย

************************************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

กฏในการรบ

กฏในการรบมีอยู่ว่า
หากมีกำลังมากกว่าข้าศึกสิบเท่า  จงปิดล้อมพวกเขาไว้
หากมีกำลังมากกว่าข้าศึกห้าเท่า   จงโจมตี
หากมีกำลังมากกว่าข้าศึกสองเท่า   จงแบ่งแยกข้าศึก
หากมีกำลังเท่ากับข้าศึก    จงมองหาสนามรบที่ได้เปรียบ
หากมีกำลังน้อยกว่าข้าศึก  ให้ตั้งรับ
หากอ่อนแอกว่าข้าศึกมาก ให้เลี่ยงหลบ

********************************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

ศัตรูกำลังทำอะไร

หากศัตรูอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ   จงหลอกหล่อพวกเขาออกมา
หากศัตรูสับสน   จงใช้ความแนวแน่
หากศัตรูแข็งแกร่ง   จงเตรียมพร้อม
หากศัตรูเข้มแข็ง    จงหลีกเหลี่ยง
หากศัตรูหึกเฮิม  จงทำให้ท้อแท้
หากศัตรูอ่อนแอ  จงยุให้อวดดี
หากศัตรูกำลังพักผ่อนออมแรง   จงกระตุ้นให้ต้องทำงาน
หากศัตรูรวมกันติด    จงแยกให้แตก
โจมตีเมื่อเขาระวังตัวน้อยที่สุด
จงออกเดินทางเมื่อเขาไม่คาดคิด

**********************************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

ทำตรงกันข้าม

เมื่อพร้อม  จงทำประหนึ่งไร้ความสามารถ
เมื่อกำลังเคลื่อนไหว  จงทำประหนึ่งว่าอยู่เฉยๆ
เมื่อกำลังอยู่ใกล้ข้าศึก   จงแสดงประหนึ่งว่าอยู่ไกล
เมื่ออยู่ไกล  จงทำประหนึ่งอยู่ใกล้

************************************
ซุนวู. (2547).คัมภีร์ยุทธศาสตร์ซุนวู.กรุงเทพฯ : เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส.

จงเรียนรู้

อย่าเรียนรู้แต่ความฉลาด.....
จงเรียนรู้ความอดทนด้วย....

อย่าเรียนรู้แต่ความเก่งกล้า...
จงเรียนรู้ความอดกลั้นด้วย...

********************************************
พระชุมพล  พลปญฺโญ. (2552). ทิศที่ 11. กรุงเทพฯ : สุพีเรียพริ้นติ้งเฮาส์.

คนธรรมดากับมหาบุรุษ

เมื่อยากไร้ก็ประจบประแจงคนมั่งมี
เมื่อได้ดีมีสุขก็เย่อหยิ่งถือดี...ลืมตัวลืมตน
นี่คือคนธรรมดาที่มีอยู่เกลื่อนโลก
คุณค่าของคนชนิดนี้เท่ากับก้อนหินกรวดทราย

เมื่อยากไร้ก็ขวนขวายอดออมเสริมสร้างพัฒนาตน
เมื่อได้ดีมีสุขก็เห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้ด้อยกว่า
นี่คือมหาบุรุษที่หาได้ยากในโลก
คุณค่าของคนชนิดนี้ย่อมเปรียบประดุจเพชรพลอยทองคำ

**************************************
พระชุมพล  พลปญฺโญ. (2552). ทิศที่ 11. กรุงเทพฯ : สุพีเรียพริ้นติ้งเฮาส์. 

ดวงใจแม่

ขอน้อมนอบหมอบกราบแท้...พระแม่แก้ว
สำนึกแล้ว...ความเลวที่เหลวไหล
ลูกซึ้งแล้ว แนววิถีที่เป็นไป
แม่ช้ำใจเพราะลูกมาจนชิน

ลูกสร้างกรรมทำบาปกราบเท้าแม่        ซึ้งใจแท้แม่อภัยให้หมดสิ้น
น้ำตาแม่แต่ละหยดที่รดริน                   ลูกถวิลดังน้ำกรด...รดหัวใจ

พระคุณ "แม่" เลิศฟ้ามหาสมุทร           พระคุณแม่สูงสุดมหาศาล
พระคุณแม่เลิศกว่าสุธาธาร                   ใครจะปานแม่ฉันนั้นไม่มี

แม่ แม่ แม่คำนี้มีความหมาย                   มีพระคุณมากมายหลายสถาน
แม่เป็นได้หลายสิ่งหลายประการ           เป็นธนาคาร เป็นพระพรหม เป็นร่มไทร

เป็นผู้ให้กำเนิด เกิดลูกรัก                     เป็นผู้ให้ ที่พัก พิงอาศัย
เป็นผู้ให้การุณย์  อบอุ่นใจ                    เป็นผู้ให้  อะไร อะไร ไม่รามือ

ลูกเจ็บไข้ แม่ก็ให้การรักษา                 ลูกโตมาแม่ก็ส่งเรียนหนังสือ
ลูกต้องการตำราแม่หาซื้อ                   ลูกปรึกษาหารือแม่ยินดี

ลูกคนใดกระทำกรรมแก่แม่                  สุดเลวแท้  ชั่วช้า  สิ้นราศี
ลูกตีแม่  ด่าแม่  ลูกกาลี                       ลูกไม่ดี ทำแม่ช้ำ น้ำตาริน

น้ำตาแม่รินไหลเมื่อลูกร้าย                  น้ำตาแม่เป็นสายเมื่อลูกหมิ่น
น้ำตาแม่หลั่งลงรดแผ่นดิน                   เมื่อได้ยินลูกเสเพลเนรคุณ

โอ้แม่จ๋า  พระคุณแม่แผ่ปกเกล้า          โอ้แม่จ๋า   ผู้เฝ้า  เข้าเกื้อหนุน
โอ้แม่จ๋า   ผู้เมตตา ผู้การุณย์               โอ้แม่จ๋า  ผู้ค้ำจุน ไม่ห่างไกล

ดวงใจแม่ใสสะอาดกว่าทุกสิ่ง             ดวงใจแม่สะอาดยิ่งกว่าสิ่งไหน
ดวงใจแม่ส่องสว่างกลางดวงใจ          ดวงใจแม่มีไว้เพื่อลูกเอย....

************************************************
ไม่ทราบที่มา

รักลูก..ลูกรัก

พ่อแม่แก่เฒ่า           จำจากเจ้าอยู่ไม่นาน
จะพบจะพ้องพาน     เพียงเสี้ยววารของคืนวัน

ใจจริงไม่อยากจาก      เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน          ย่อมร้าวรานสลายไป

ขอเถิดถ้าสงสาร    อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย        คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน

ไม่รักก็ไม่ว่า               เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน       คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ

เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง      ให้นึกถึงเมื่อเยาวว์วัย
ร้องไห้ยามป่วยไข้         ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน

เฝ้าเลี้ยงจนเติบใหญ่      แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ยล          เติบโตจนสง่างาม

ขอโทษถ้าทำผิด           ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ            หวังติดตามช่วยอวยชัย

ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง              มีหรือหวังอยู่ทนได้
วันหนึ่งคงล้มไป           ทิ้งฝั่งไหว้ให้วังเวง

******************************************* 
พระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพ่อจรัญ) วัดอัมพวัน  อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี

ทำต่อไป

อย่า....ปรึกษากับความหวาดกลัว
จง...ปรึกษากับความฝันของคุณ

อย่า...จมอยู่กับความผิดหวัง
แต่...จงคิดถึงวันพรุ่งนี้

อย่า...คิดถึงสิ่งที่พยายามทำแล้วแต่ไม่สำเร็จ
จง...คิดถึงสิ่งที่ยังพอทำได้ แล้วทำต่อไป

***********************************
โป๊ป จอห์น อ้างมาจาก วรางคณา  นุติพงษ์. (2549). เข็มทิศเพื่อความสุข. กรุงเทพฯ : ไพลิน.

ไม่ได้ล้มเหลว

ที่ผ่านมาฉันไม่ได้ล้มเหลวหรอก เพียงแต่ว่า
ฉันแค่ค้นพบวิธีที่ใช้การไม่ได้แค่ 1,000 วิธีเท่านั้นแหละ

*************************************
โธมัส  อัลวา เอดิสัน อ้างมาจาก วรางคณา  นุติพงษ์. (2549). เข็มทิศเพื่อความสุข. กรุงเทพฯ : ไพลิน.

อย่ากลัวที่จะลงเล่น

ชีวิต คือสนามอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
จงอย่ากลัวที่จะลงเล่นในทุกวัน

*******************************
ที่มา : วรางคณา  นุติพงษ์. (2549). เข็มทิศเพื่อความสุข. กรุงเทพฯ : ไพลิน.

ต้นไม้เล็กๆ

เราจะไม่มีวันพอใจในตนเอง
หากเรามัวแต่เฝ้ามองความมั่งคั่งพรั่งพร้อมของผู้อื่น

เราจะไม่มีวันภาคภูมิใจในตนเอง
ถ้าเราเฝ้ามองแต่ความสำเร็จและตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ของผู้อื่น

เราจะไม่มีวันนับถือตนเอง
ถ้าเราเฝ้าแต่เปรียบเทียบตนกับผู้อื่นจนคิดริษยาเขา

ต้นไม้เล็กๆ ไม่เคยเฝ้าอิจฉาต้นไม้ใหญ่
มันก็มีความสุขอยู่ในโลกใบนี้ได้
สามารถที่จะสัมผัสสายลมอุ่น สายฝนโปรยและแสงแดดกล้า
เช่นเดียวกับต้นไม้ใหญ่ทุกต้นในโลกใบนี้

******************************************
ที่มา : ทะเลหญ้า. (2544). อบอุ่นกำลังใจ. กรุงเทพฯ : ไพลิน.

คืนเดือนมืด

ในคืนเดือนมืด...เรามิอาจมองเห็นเส้นทางได้
หากดุ่มเดินไปก็มีแต่จะพลัดตกหกล้ม
หรือเดินไปอย่างหลงทิศผิดทาง

เช่นเดียวกัน
ในช่วงเวลาที่สติปัญญามืด
เราย่อมมองไม่เห็นความเป็นจริงของปัญหาต่างๆ เช่นกัน

สติปัญญาที่กระจ่างและสว่างเท่านั้น
จึงจะทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

**************************************
ที่มา : ทะเลหญ้า. (2544). อบอุ่นกำลังใจ. กรุงเทพฯ : ไพลิน.

ความเข้มแข็ง

เมื่อใดก็ตามที่เราสามารถยอมรับและเข้าใจ
ในความอ่อนแอของตัวเราเอง

เมื่อนั้นแหละที่เรากำลังเข้มแข็ง
และจะไม่มีวันอ่อนแอไปกว่านั้นได้อีกแล้ว

**************************************
ที่มา : ทะเลหญ้า. (2544). อบอุ่นกำลังใจ. กรุงเทพฯ : ไพลิน.

เป็นตัวของตัวเอง

เราจะไม่มีวันเหน็ดเหนื่อยกับชีวิตมากนัก
ถ้าเราทำทุกอย่างที่เราพึงพอใจ

มีคนมากมายที่พยายามทำทุกอย่าง
เพื่อให้คนอื่นๆ พอใจและยอมรับ
ซึ่งนั่นจะทำให้ชีวิตของเขาเหน็ดเหนื่อย
และไม่มีวันเป็นสุขอย่างแท้จริงได้

ความสำเร็จที่มุ่งแสวงหาก็เช่นกัน
จะเป็นของคนผู้หนึ่งได้ก็ด้วยการเป็นตัวของตัวเอง
มิใช่จะเกิดขึ้นได้เพียงเพราะคนอื่นพึงพอใจเรา

*****************************************
ที่มา : ทะเลหญ้า. (2544). อบอุ่นกำลังใจ. กรุงเทพฯ : ไพลิน.

เตรียมพร้อมที่จะผิดหวัง

เมื่อคิดมุ่งไปข้างหน้าเพื่อไขว่คว้าความสำเร็จ
ก็อย่าลืมเตรียมความพร้อมที่จะผิดหวังด้วย
ไม่มีนักวิ่งคนใดที่ไม่เคยล้ม
นักเดินทางผู้เจนโลก ย่อมต้องเคยหลงทิศผิดทางมาแล้วทั้งสิ้น


************************************
ที่มา : ทะเลหญ้า. (2544). อบอุ่นกำลังใจ. กรุงเทพฯ : ไพลิน.

เปลี่ยนแปลงตนเอง

เมื่อใดที่เรากล้าหาญ
ที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง

เมื่อนั้นเราจะได้รู้จักตนเองในแง่มุมใหม่ๆ
ที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

******************************************
ที่มา : ทะเลหญ้า. (2544). อบอุ่นกำลังใจ. กรุงเทพฯ : ไพลิน.

อย่ากลัวที่จะต้องเจ็บ

อย่ากลัวที่จะต้องเจ็บ
ต้องล้มลุกคลุกคลานบ้าง
เพราะความเจ็บปวดนี่แหละ
ที่จะสอนเราให้เข้มแข็งขึ้น

ใจยิ่งเจ็บ ก็จะยิ่งแข็งแกร่ง
ยิ่งเพิ่มพูนประสบการณ์
ยิ่งเจ็บ เราก็ยิ่งได้เรียนรู้
ยิ่งฉลาดมากขึ้น
โดยใช้ความเจ็บปวดในครั้งนั้นเป็นครู

*******************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

เวลา..

เวลา...จะช่วยเรียกสติเรากลับมา
เวลา...จะช่วยให้เราได้ทบทวน ไตร่ตรองในเรื่องที่ผ่านมามากขึ้น
เวลา...จะนำพาสิ่งใหม่ๆ ให้ผ่านเข้ามาในชีวิต
เวลา...จะช่วยให้ความเจ็บปวดของเราคลายลงทีละน้อย
ด้วยวิธีการของมันเองที่เราไม่อาจรู้
และเวลา...ก็จะช่วยสมานแผลภายในใจจนกระทั่งหายดีในที่สุด

*********************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

แม้มิได้เป็น....

แม้มิได้เป็นซามูไร   ก็จงภูมิใจที่เป็นสมุนเขา
แม้มิได้เป็นดอกซากุระ  ก็อย่ารังเกียจที่จะเป็นดอกไม้อื่น
แม้มิได้เป็นถนน  ก็จงพอใจที่จะเป็นบาทวิถี
แม้มิได้เป็นดวงตะวัน   ก็ยินดีที่จะเป็นดวงดาว
อันว่าภูเขาไฟฟูจินั้นสวย  แต่ภูเขาลูกอื่นๆ ก็มิได้ด้อยค่า
ไม่ว่าจะเป็นอะไร จงพอใจและเป็นให้ดีที่สุด

*******************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

ใจของเรา

เราไม่สามารถควบคุม "ใจคนอื่น" ได้
แต่เราสามารถควบคุม "ใจของเรา" ได้

เขาจะคิดยังไงกับเรา....ก็ช่างเขา
เขาเอาเราไปนินทา....ก็ช่างเขา
เขาจะทำตัวแย่ๆ ยังไง...ก็ช่างเขา
เขาไม่ยอมรับความหวังดีจากเรา...ก็ช่างเขา

ไม่ต้องมัวมาตั้งคำถามว่า
ทำไมเขาถึงทำอย่างนี้
ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น
แล้วทำไมเขาไม่ทำเหมือนเรา

อย่าใช้ใจเราตัดสินว่า...ใครผิด ใครถูก
เพราะสำหรับเขาความคิดของเราอาจผิดก็ได้

ปล่อยวางเสียบ้าง..อย่าไปตั้งความหวังว่าทุกคนจะต้องรักเรา
...เพราะมันเป็นไปไม่ได้หรอก....
และนอกจากไม่คาดหวังกับคนอื่นแล้ว
ก็ไม่ควรตั้งความหวังขึ้นมากดดันตัวเองด้วย....

****************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

ความหวัง

จริงที่ว่า.....ชีวิตคนเรา อยู่ด้วยความหวัง
แต่ถ้าหวังมากจนเกินไป
ความหวัง....ก็จะกลายเป็นอาวุธที่หันมาทำร้ายเราได้เช่นกัน

หวังแต่พอดี
หวังในสิ่งที่เป็นไปได้
แต่อย่าให้ความหวัง..กลายเป็นการหลอกตัวเอง

อย่าพยายามหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเอง
เพราะอะไรที่เป็นไปไม่ได้ มันก็เป็นไปไม่ได้
ยิ่งคาดหวังมากเท่าไร  คุณก็ยิ่งจะเจ็บมากเท่านั้น

อย่าให้ความหวัง...กลายเป็นความยึดติด
ยืดหยุ่นบ้าง  อย่ายึดมั่นถือมั่นจนเกินไปนัก
อย่างวางกับดักให้ตัวเองจนดิ้นไม่หลุด
เพราะตราบใดที่ชีวิตไม่หยุดนิ่ง
ความเปลี่ยนแปลง..ก็เป็นสิ่งที่เราต้องพบเจอเป็นธรรมดา

อย่าหวัง...ว่าทุกคนจะต้องเป็นไปตามที่เราต้องการ
เพราะต่างคนก็ย่อมต้องต่างใจ
ย่อมต้องมีรูปแบบการคิดและการดำเนินชีวิต
เป็นของตัวเองที่ไม่ซ้ำกัน

***************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

การร้องไห้

การร้องไห้...ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
การร้องไห้...ไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ
และการร้องไห้....ก็ไม่ใช่เครื่องหมายของความพ่ายแพ้

ถ้าอยากจะร้องก็ร้อง.......
แต่มีข้อแม้ว่า น้ำตาของคุณที่เสียไป
ต้องแลกกับความเข้มแข็งในใจ ที่จะต้องได้คืนกลับมา

*****************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

การยอมรับผิด

การยอมรับผิด  ไม่ใช่การโทษตัวเอง

การยอมรับผิด คือ การที่คุณยืดอกยอมรับอย่างสง่าผ่าเผย พร้อมที่จะทำความเข้าใจกับความผิดพลาดนั้น  และร่วมมือกันแก้ไขปัญหาจนลุล่วงไปได้ในที่สุด แล้วปัญหานั้นก็จะถูกสะสางจนหมดไปจากใจของคุณ ไม่มีอะไรติดค้างให้หวนกลับมาทำร้ายคุณอีก

แต่การโทษตัวเอง....ใจของคุณจะถูกปิดกั้น ไม่ยอมเข้าใจอะไรทั้งนั้น  ไม่มีการพิจารณาถึงสาเหตุ และใจของคุณจะไม่มีวันให้อภัยตัวเอง คุณยินดีที่จะปิดขังตัวเองไว้กับความขมขื่นไปชั่วชีวิต  ยินดีที่จะเปิดรับให้ความเจ็บปวดนั้น ตามหลอกหลอนคุณไม่รู้จักจบสิ้น

แล้วจะได้ประโยชน์อะไร นอกจากเป็นการทำลายตัวเอง

*********************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

ถูกกับผิด

ในบางสถานการณ์  ผิด ก็อาจกลายเป็นถูก
เช่นเดียวกัน....
ในบางสถานการณ์ ถูก ก็อาจกลายเป็นผิด

จำให้ดีว่า...โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน

****************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

ชีวิตในบางครั้ง

ชีวิตในบางครั้ง
ความอยุติธรรมก็คล้ายเป็นเรื่องถูกต้อง
ความเจ็บปวดก็คล้ายเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเหลี่ยง
ความเสียเปรียบก็อาจถูกยัดเยียดให้
ความพ่ายแพ้ก็อาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน
คนที่เข้มแข็งเท่านั้นจึงจะสามารถทนรับเอาไว้ได้
เพื่อที่จะกอบกู้ทุกอย่างคืนมา

***********************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

รองเท้ากัด

รองเท้ากัด...เป็นอาการที่อยู่คู่กับรองเท้า  ฉันใด
ความเจ็บปวด...ก็เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นกับชีวิต  ฉันนั้น

....ต่างกันแค่.....
รองเท้ากัด...สร้างบาดแผลขึ้นที่เท้า
แต่เรื่องเลวร้าย...สร้างรอยแผลขึ้นในใจ

ขอเพียงอดทน
ไม่ยอมแพ้ให้กับความเจ็บปวดเหล่านั้น
สักวัน...รอยแผลจะจางหายไป
แลกกับการได้ความเข้มแข็งกลับคืนมา

*******************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

ให้รู้ว่ารู้

ให้รู้ว่า "รู้"
(คนเราต้องรู้ตัวเองอยู่เสมอ อย่าขาดสติ)

ให้รู้ว่า "ไม่รู้"
(คนเราต้องรู้ตัวเองเสมอว่า เราไม่รู้อะไร)

เมื่อรู้ว่า "ไม่รู้" ให้ "เรียนรู้"
(เมื่อเรารู้แล้วว่า ตัวเราไม่รู้อะไร ให้หาทางเรียนรู้มัน)

บางครั้ง "รู้" ก็ต้องทำเป็น "ไม่รู้"
(เรื่องบางเรื่องที่เรารู้ แต่พูดออกไปรังแต่จะเกิดสิ่งที่ไม่ดี เราก็ควรไม่รู้ และไม่พูดออกไป)

บางครั้ง "เขาไม่อยากให้เรารู้" ก็ "อย่าไปรู้"
(อย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่นที่เขาไม่ต้องการให้เรายุ่ง)

และบางครั้ง "เขาอยากให้เรารู้" เราก็หัดปฏิเสธไปเสียบ้างว่า "ขอไม่รู้ได้ไหม" 
หากเรื่องนั้น เมื่อเรารู้แล้ว...จะต้องเก็บมันไว้เป็นความลับตลอดชีวิต
ก็อย่าไปรู้มันดีกว่า

************************************
สุชาต จันทรวงศ์ : 2 ก.ค.2554 

ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด

ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด
หากเจ็บก็พักเท้าเสียบ้างก็ได้..แต่อย่าหนี
อย่าหยุดที่จะก้าวไปข้างหน้า

อย่าปล่อยให้รอยแผลแค่รองเท้ากัด
เป็นอุปสรรคในการก้าวเดินของคุณ

***************************************
ที่มา : Sirena. (2553). ไม่เคยมีใครตาย...เพราะรองเท้ากัด. กรุงเทพฯ : เพทาย-อินสไปเรชั่น.

กล่องกระดาษแห่งความสำเร็จ

ความคาดหวังความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกัน
หากความสำเร็จที่ว่าเปรียบเสมือนกล่องกระดาษ
คนๆ นั้นก็ต้องหาสิ่งของ (ความสำเร็จ) มาใส่กล่องให้เต็มโดยเร็ว

หลายคนเหนื่อยล้า และรู้สึกท้อแท้
เหนื่อยเกินที่จะหาสิ่งของ (ความสำเร็จ)
มาใส่กล่องกระดาษของตนเองให้เต็มกล่อง
เพราะสิ่งของ (ความสำเร็จ) นั้น มันช่างหายากสิ้นดี
จนต้องเลิกล้มไปในที่สุด 

วิธีที่เราจะไม่เหนื่อย ไม่ท้อแท้ ก็คือ
เราควรลดขนาดของกล่องกระดาษแห่งความสำเร็จให้เล็กลง
เพราะว่ากล่องเดิม มันอาจใหญ่เกินไป

*******************************************
สุชาต จันทรวงศ์ ปรับปรุงมาจาก วนิษา เรซ. (2553). Begin with the end : เกมชีวิตเริ่มต้นที่ตอนจบ. (เพื่อนส่งอัเมลล์มาให้)

น่าเสียดาย

น่าเสียดาย ที่เรามีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
แต่เรากลับศรัทธาไสยศาสตร์หัวปักหัวปำ

น่าเสียดาย ที่เรามีพระมหากษัตริย์ที่แสนดี
แต่เรากลับมีคนโกงกินเต็มบ้านเต็มเมือง

น่าเสียดาย ที่เรามีวัดอยู่เกือบทุกหมู่บ้าน/ตำบล
แต่เรากลับมากด้วยคนขาดจริยธรรมอยู่ทั่วไป

น่าเสียดาย ที่เราสถาปนาประชาธิปไตยตั้งแต่ พ.ศ. 2475
แต่เรากลับมีปฏิวัติ/รัฐประหารมาแล้ว 14 ครั้ง

น่าเสียดาย ที่เรามีมหาวิทยาลัยมากมายติดอันดับโลก
แต่เรากลับโชคร้ายที่คนไทยชอบดูดวงบวงสรวงเทพยดา

น่าเสียดาย ที่เรามีป่าไม้-แม่น้ำ-ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์
แต่เรากลับเทิดทูนการทำลายแทนการรักษา

น่าเสียดาย ที่เรามีศิลปวัฒนธรรมเป็นของตนเอง
แต่เรากลับเก่ง "การลอกเลียนแบบ" เป็นที่สุด

น่าสียดาย ที่เรามีสื่อมวลชนมากมายไร้พรมแดน
แต่เจ็บปวดเหลือแสนเมื่อสื่อมวลชนมุ่งแต่การขายสินค้า

น่าเสียดาย ที่เรามีกฎหมาย
แต่เรากลับปล่อยให้มีการใช้กฎหมู่จนเป็นเรื่องธรรมดา

น่าเสียดาย ที่เรามีหนังสือมากมายหลายพันเล่มในห้องสมุด
แต่สถิติสูงสุดคือเราอ่านหนังสือกันปีละ 8 บรรทัด

น่าเสียดาย ที่เรามีอินเทอร์เน็ตใช้ก่อนประเทศในโลกที่สาม
แต่เรากลับเสื่อมทรามเพราะใช้ส่งภาพถ่ายคลิปโป๊

น่าเสียดาย ที่เรามีโทรทัศน์หลายสิบช่อง
แต่เรากลับจ้องจะดูแต่ละครน้ำเน่า

น่าเสียดาย ที่เรามีพ่อแม่อยู่ในบ้าน
แต่เรากลับปล่อยให้ท่านอยู่อย่างเปลี่ยวเหงา

น่าเสียดาย ที่เราสามารถกลับตัวเป็นคนดีได้
แต่เรากลับชอบใจที่จะเป็นคนเลวตลอดกาล

น่าเสียดาย ที่เราเป็นอิสระจากความอยากได้
แต่เรากลับพึงใจอยู่กับการสนองความอยาก

น่าเสียดาย ที่เราบรรลุนิพพานได้ในชาตินี้
แต่เรากลับยินดีอยู่แค่การทำบุญให้ทาน


*********************************************
ที่มา : ท่าน ว.วชิรเมธี (เพื่อนส่งต่ออีเมลล์มาให้)